วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557

การทำวุ้นกะทิ

การทำวุ้นกะทิ : ฉบับบ้าน ๆ  สำหรับงานเลี้ยง


วัตถุดิบที่ต้องเตรียม
1. ผงวุ้น
2.  น้ำตาลทรายขาว
3.  ใบเตย
4.  กะทิสด หรือกะทิแบบกล่อง
5.  น้ำเปล่า

อุปกรณ์
- ถาด/ภาชนะใส่วุ้น
- หม้อต้ม


สำหรับการทำวุ้นอัตราส่วนสามารถสังเกตได้จากหน้าซองวุ้นผง  ซึ่งบอกรายละเอียดไว้เรียบร้อย 

วิธีทำ
1. ตั้งหม้อต้ม  เติมน้ำในปริมาณที่ชั่งตวง  ส่วนตัวแล้วใช้วิธีคาดคะเนเอา  เพราะการทำเลี้ยงคนจำนวนมาก  มันไม่เหมือนกับการทำกินเองเล็ก ๆ น้อย ๆ  จึงต้องชั่งตวงบวกกับการคาดคะเน เพื่อน้ำด้วยเพราะเวลาเคี่ยวให้มันเซตตัวทำให้น้ำละเหยออกไปบางส่วน อีกทั้งยังต้องการให้วุ้นแข็งตัวกำลังพอดี
2.  ใส่ใบเตยมัดลงไปในน้ำที่ต้ม  ละลายผงวุ้นในถ้วยตวงกับน้ำเทลงไปรวมกับน้ำที่ต้ม  เพิ่มน้ำตาล   เคี่ยวด้วยไปปานกลางไปเรื่อย  ๆจนวุ้นเริ่มละลายและเซตตัว  การสังเกตจากาตักมาหมอยลงจานที่เย็น ๆ ถ้าวุ้นได้ที่มันจะเป็นก้อน  แต่ถ้ายังไม่ได้ก็เคี่ยวต่อไป  อุณหภูมิ และระยะเวลามีส่วนสำคัญ  ต้องคอยสังเกต
(การใส่ใบเตยทั้งมัดลงไป  เราต้องการแต่กลิ่นไม่ต้องการสี  ทำแบบโบราณ  เมื่อเสร็จจึงตักใบเตยทิ้ง  คนแก่ชอบกินแบบเดิม ๆ จึงใช่สูตรดังกล่าว)
3.  เมื่อวุ้นสุกได้ที่ตักใส่ถาด  เว้นช่วงสำหรับวุ่นกะทิที่จะเทอีกชั้นไว้ด้วย  รอให้เย็น
4.  ทำวุ่นอีกชั้นขั้นตอนเหมือนเดิม  เพียงแต่เติมกะทิลงไป  สำหรับกะทิสดอร่อยหอม  แต่เก็บไว้ได้ไม่นาน  จึงเลือกใช้กะทิกล่อง  นำมาเคี่ยวให้สุก  สังเกตจากการตักมาหยอดลงจาน  ถ้าเซตตัวดีก็ใช้ได้  นำมาเทลงไปอีกชั้นบนถาดวุ้นที่เตรียมไว้  ทิ้งไว้ให้เย็นในอุณหภูมิห้อง  ไม่ต้องเก็บไว้ในตู้เย็น  ทำค้างไว้ 1  คืนก็ไม่เสีย    



***หมายเหตุ***
การทำวุ่นกะทินั้น  ขึ้นอยู่กับว่าจะทำเพื่ออะไร  ทำขาย  ทำกินเอง  ทำเลี้ยงในงาน  แถบเชียงใหม่ในโซนที่ผู้เขียนอาศัยอยู่  คนแก่หรือผู้สูงอายุไม่ชอบให้แต่งแต้มสีสันอาหาร  ชอบกินแบบเรียบ ๆ แต่อร่อย ไม่หวานจัดกำตามที่เห็น   
*สำหรับคนสมัยใหม่นิยมสีสันสวย ๆ งาม ๆ  รูปทรงน่ารักของขนมวุ้น  คนที่คิดจะทำกินหรือทำขายก็หาซื้อแม่พิมพ์สำเสร็จรูปมาตกแต่งวุ้นก็ได้นะครับ

ภาคที่เห็นเป็นวุ่นกะทิที่ทำในงานขึ้นบ้านใหม่ของพี่สาวผู้เขียน  ทำตอนกลางคืน  นำมาเลี้ยงตอนกลางวัน  ไม่บูดแถมยังเซตตัวดี  ตัดใส่จานไม่มีน้ำ  ถือว่ารอบนี้ใช้ได้  ลองนำไปทำกันดูนะครับ

เขียน  วันที่ 30  กันยายน  2557

ผู้เขียน  พยัคฆ์กูรู

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น